เรื่องมหัศจรรย์ ตำนานยักษ์วัดโพธิ์



เรื่องมหัศจรรย์ ตำนานยักษ์วัดโพธิ์

Share :

เรื่องมหัศจรรย์ ตำนานยักษ์วัดโพธิ์



จากตำนานเล่าขานเกี่ยวกับ ตำนานวัดโพธิ์ ที่ใครๆ ต้องรู้จักและเคยได้ยินกัน นั่นก็คือ ตำนานรูปปั้นหินยักษ์ ที่คอยปกปักษ์รักษาอยู่แถวปากประตูทางเข้าวัด แท้จริงแล้ว ตำนานเหล่านั้น มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน

 

 

     สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวแวะเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ คงจำกันได้ดีกับรูปปั้นหินยักษ์ที่เป็นดั่งเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ ชื่อเต็มๆ ของวัดแห่งนี้ มีชื่อว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร" หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ "วัดโพธิ์" วัดนี้ แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดโพธาราม" มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และเมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 1  ทรงขึ้นครองราชย์ ก็ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ "วัดโพธาราม" ขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม เสร็จแล้ว ทรงพระราชทานนามว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส" แล้วมาเปลี่ยนเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" ในสมัยรัชกาลที่ 4

 

     ตำนานยักษ์วัดโพธิ์ มีเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา ซึ่งว่ากันว่า "ยักษ์" ที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดี คงจินตนาการถึงภาพรูปร่างใหญ่โตมหึมา มีทั้งฤทธานุภาพ พละกำลังมหาศาล ถืออาวุธวิเศษ ยกไพร่พลต่อสู้ตามท้องเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเป็นอีกตำนานนิทานไทยที่ผูกเรื่องกันมา ยิ่งในตำนานการต่อสู้ยักษ์ไทย 2 ตน ระหว่างยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้ง โดยมียักษ์วัดพระแก้วเป็นผู้ห้ามทัพ ที่เล่าสืบกันมาปากต่อปาก จนทำให้พื้นที่ต่อสู้ราบเรียบกลายเป็นสถานที่โล่งเตียน แล้วเรียกชื่อบริเวณนั้นว่า "ท่าเตียน"

 

ประวัติการสร้างประติมากรรมรูปปั้นยักษ์วัดโพธิ์

     หลายๆ คน คงนึกภาพรูปปั้นยักษ์วัดโพธิ์ ที่มีรูปร่างใหญ่โตเหมือนกับยักษ์วัดแจ้ง, วัดอรุณราชวราราม, ยักษ์วัดพระแก้ว, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เอาเข้าจริงแล้ว หากคนที่เคยไปเยี่ยมชมวัดโพธิ์ ก็คงจะรู้กันดีว่า รูปปั้นยักษ์วัดโพธิ์ มีขนาดใหญ่ แค่เท่าตัวคน เหล่าคนไทยดีๆ นี่เอง จะเรียกว่ายักษ์ไทย ก็ไม่ผิดนัก ประวัติการสร้างประติมากรรมรูปยักษ์วัดโพธิ์ มีธรรมเนียมการสร้างรูปยักษ์ เพื่อรักษาประตูวัดโพธิ์ ได้มีมานานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในครั้งนั้น ได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อรูปอสูรประจำประตูวัด ประตูละ 1 คู่ ทั้งสิ้นจำนวน 4 ประตู

 

 

ตุ๊กตาศิลาจีนยักษ์เหล่านี้ ไม่ใช่ยักษ์วัดโพธิ์ตัวจริง

     ย่างเข้าสู่ยุคสมัยในรัชกาลที่ 3 รูปอสูรเหล่านั้นที่ได้สร้างไว้ เกิดชำรุด จึงโปรดเกล้าฯ ให้รื้อถอน แล้วนำ "ลั่นถัน" หรือตุ๊กตาศิลาจีนมาตั้งแทน ซึ่งได้กลายเป็นความเข้าใจผิดกันเสียส่วนมาก ว่ายักษ์วัดโพธิ์ คือยักษ์จีนเหล่านั้น แท้จริงแล้ว ความเชื่อนี้ เป็นความเชื่อที่ผิด และพร้อมกันนั้น ได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อรูปยักษ์ขนาดเล็ก สูงประมาณ 175 เซนติเมตร จำนวน 8 ตน ตั้งไว้ที่ทางเข้าหอพระไตรปิฏก ( พระมณฑป ) ตรงซุ้มประตูทั้ง 4 ด้าน ด้านละ 1 คู่ เพื่อให้ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาหอพระไตรปิฎก

 

ยักษ์วัดโพธิ์ตัวจริง คือยักษ์ไทยเหล่านี้

 

 

     ตนแรกที่ต้องกล่าวถึงเลยคือ "แสงอาทิตย์" ผิวกายสีแดงชาด ทรงมงกุฎกระหนก ปากขบ ตาจระเข้ โอรสพญาขรแห่งกรุงโรมคัลกับนางรัชฎาสูร น้องชายทศกัณฐ์ มีอาวุธประจำกายคือ แว่นสุรกานต์ มีฤทธานุภาพร้ายแรง ถ้าส่องไปที่ใดจะบังเกิดไฟเผาผลาญจนหมดสิ้น แสงอาทิตย์ฝากแว่นไว้ที่พระพรหม เมื่อต้องการใช้ จึงให้พี่เลี้ยงชื่อวิจิตรไพรีไปทูลขอยืมลงมา

 

 

     "ไมยราพ" ผู้ซึ่งมีผิวกายม่วงอ่อน สวมมงกุฎกระหนก หรือมงกุฏหางไก่ ปากขบ ตาจระเข้ โอรสท้าวมหายมยักษ์เจ้ากรุงบาดาลกับนางจันทรประภา มีกล้องปัทมราชเป็นอาวุธวิเศษประจำกาย และมีฤทธานุภาพเรื่องเวทมนตร์ที่ใช้สะกดทัพ อีกทั้งถอดดวงจิตไว้ที่เขาตรีกูฏ

 

 

     "สัทธาสูร" เจ้าเมืองอัสดงค์ ผิวกายสีหงเสน สวมมงกุฎจีบ ปากขบ ตาจระเข้ เป็นยักษ์ที่ทศกัณฐ์เชิญมาเป็นพันธมิตรเพื่อทำศึกสู้กับพระราม สัทธาสูรได้เวทพระพรหม สามารถเรียกอาวุธจากเทวดามาใช้สู้รบได้

 

 

     "พญาขร" เจ้ากรุงโรมคัล ผิวกายสีเขียว สวมมงกุฎจีบ ปากขบ ตาจระเข้ โอรสองค์ที่สี่ของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎา เป็นอนุชาของทศกัณฐ์ ชายาชื่อรัชฎาสูร มีโอรสชื่อมงกรกัณฐ์และแสงอาทิตย์ อาวุธวิเศษคือศรจักรพาลพัง

 

     และนี่คือตำนานมหัศจรรย์ยักษ์วัดโพธิ์ และจุดกำเนิดการสร้างรูปปั้นยักษ์เหล่านี้ ที่จะยังคงเป็นเรื่องเล่าปรัมปราสุดคลาสสิก ไปอีกนานเท่านาน ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่า วัดไทย ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายนัก เพราะนอกจาก วัดโพธิ์ แล้ว ยังมี วัดข้างๆ ที่ยังมีตำนานเรื่องเล่า และควรค่าแก่การออกไปเที่ยวอีกหลายแห่ง อาทิ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดสระเกศ

 

       

     อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวละแวกใกล้เคียงน่าสนใจ หรือแหล่งอาหาร Street Food เจ๋งๆ อร่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นแถว ย่านถนนข้าวสาร, ย่านสามเสน หรือศาลหลักเมือง รับรองได้เลยว่า เมื่อคุณได้มาเที่ยวที่วัดแห่งนี้แล้วล่ะก็ มีแต่คุ้มกับคุ้มแน่นอน และหากเมื่อคุณเที่ยวสนุกสุดเหวี่ยงมาทั้งวันแล้วล่ะก็ อยากหาที่พักดีๆ เจ๋งๆ สบายๆ เพื่อรอความสนุกต่อยามเช้าวันใหม่ เราขอแนะนำ Muay Thai Hostel Khaosan ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพ ห่างจาก ถนนข้าวสาร ( Khaosan Road ) ไม่เกิน 1.2 กม. ที่พักของเรา มีทั้งบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย ( WiFi ) ฟรี พร้อมพื้นที่นั่งเล่น, ห้องน้ำส่วนตัว, พร้อมฝักบัว ห้องน้ำส่วนกลาง และเครื่องใช้ในห้องน้ำ ฟรี และพนักงานแผนกต้อนรับของเรา ยังสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย พร้อมให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง พักผ่อนให้เต็มอิ่ม เพื่อต้อนรับความสนุกวันใหม่ มาที่ Muay Thai Hostel Khaosan

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

- ย่านถนนข้าวสาร สวรรค์ของนักท่องเที่ยว

- สถานที่ ที่ชาวต่างชาติชอบต้องมา



บทความ ที่น่าสนใจ

เที่ยววังหลัง กับ มวยไทยโฮสเทล

มวยไทย โฮสเทล ที่พัก สุดประหยัด มีเงินเหลือเที่ยว




Muaythai Hostel

98/3-10 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม
เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Tel : 02 629 2313